นิราศสาวญ้อพลัดถิ่น (5)

นิราศสาวญ้อพลัดถิ่น ตอนที่ ๕

          เข้าสมเด็จเมืองงามได้กล่าวขาน                ลือเรื่องความรู้ด้านการศึกษา
ต่างผู้คนต่างถิ่นก้าวเข้ามา​​​                              หาวิชาไปประกอบชอบชีพตน
         เห็นเเดงไฟใจหวั่นสั่นสะท้าน​​​                   เห็นห้างร้านรถรางข้างถนน
นึกถึงพี่อยากจะพาให้มายล​​​​                            ให้เรืองรื่นชื่นกมลเต็มหัวใจ
       รถแล่นไปในทางกลางชุมชน ​​                   เห็นผู้เลือกซื้องานผ้าไหม
งานถนัดหัตถศิลป์ท้องถิ่นไทย                         ควรจะสืบสานงานไว้ให้เนิ่นนาน
        จากสกลดินเเดนแสนสวาท                    ต้องนิราศสู่เมืองนครหาญ
วีรชนวีรกรรมเป็นตำนาน                              ณ  สถานอนุสรณ์ขจรไกล
     เป็นเมืองเเห่งอารยธรรมประวัติศาสตร์         เป็นเมืองปราชญ์ราษฎร์ประชาน่าเลื่อมใส
เป็นเมืองเเห่งโบราณคดีของเมืองไทย                 ไดโนเสาร์ซากใหญ่ได้เลื่องลือ
        แล้วแล่นรถผ่านทางเก่าเข้าไปสู่​​                บ้านชมพูดูสีใสให้หวานชื่อ
ชื่อหวานนักรักคงเฟื่องเลื่องระบือ​​                      รักนั้นคือสีชมพูดูแพรวพราว
        โอ้ยามนี้ใจน้องตรมระทมนัก​​​​                    คิดถึงรักเคยคู่ครองพี่น้องสาว
ยิ่งคิดย้ำช้ำจิตผิดใจคาว​​​​                                  รักรวดร้าวเศร้าระทมตรมมิคลาย
        วอนเทวาช่วยเสกสรรบันดาลให้                พี่ยาใจรักนี้แท้ไม่แปรหาย
ถึงตัวน้องต้องร้างให้ห่างกาย                            ทิ้งให้พี่เปลี่ยวกายไกลบังอร
       เห็นกอหวายเหมือนหนามเหน็บเจ็บยิ่งนัก​​    เหมือนหนามปักกลางใจให้สังหรณ์
จากพี่มาน้องอาลัยให้อาวรณ์​​​​                          แม้จะกินจะนอนไม่เต็มตา
      อันตัวน้องปองหาขวัญตาจิต​​​​                    หวนหวนคิดถึงพี่ที่ปองหา
หากได้ชมเชยชื่นรื่นอุรา​​​​                               สนิทเเน่นให้น้องยาได้ชื่นใจ
     เห็นเเสงไฟเมืองอมรตอนฟ้าลับ​​                ตะวันเริ่มเคลื่อนดับสีแดงช่วง
สนธยาย่ำถึงเหลือครึ่งดวง​​​​                           หวั่นหวั่นทรวงห่วงพี่เหลือครึ่งใจ
      อาทิตย์ดับลับลาจันทราเคลื่อน​​​​               ดวงดาวเดือนนวลฉวีสีเหลืองใส
ศศิธรอ่อนแสงลงร่ำไร                               ด้วยเมฆหมอกออกไปใกล้ดวงจันทร์
     หลับตาใจในค่ำคืนอันมืดมิด​​​                   มืดสนิทจิตใจเริ่มไหวสั่น
ไม่เห็นหน้าพี่ต้องเศร้ารำพัน​​​​                        น้องโศกศัลย์แสนเศร้าร้าวอุรา
     นึกนึกมานองหน้าน้ำตาไหล                   สุดจะหักห้ามใจให้ครวญหา
น้องรักพี่เศร้าใจจากไกลมา​​​​                         เสน่หาสิ้นสวาทนิราศไกล
     ไกลที่พักก็พลันตื่นจากห้วงนึก                ตรองตรึกคิดทวนหวนร่ำไห้
แม้จะห่างร้างลาพี่ยาใจ                             สุดทรวงในน้องก็รักปักใจตรึง
     ถึงที่หมายที่มั่นประตูโค้ง                      หลายชั่วโมงที่เฝ้าฝันนั้นมาถึง
มหาลัยกาฬสินธุ์ใจคะนึง​​​​                           เพ้อรำพึงถึงพี่ที่กลางใจ
       เลขแพรองค์หมื่นตื้ออันศักดิ์สิทธิ์         ที่ประดิษฐ์ตั้งศาลคนเลื่อมใส
เเม้มีงานใหญ่น้อยท่านอวยชัย                    ศูนย์รวมใจความศรัทธาของชุมชน
        ขอวิงวอนพรพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์​​​             ให้มีมนตร์ดลจิตอันกุศล
ให้พี่นั้นอยู่ข้างแนบทางสกล                       เเม้นมีคนปองหาอย่าได้เชย
        จะให้น้องนี้อยู่เคียงคู่พี่​​​​​                      อย่าได้มีแชเชือนทำเมินเฉย
จะมิให้ใยสวาทขาดกันเลย​​​​                          วาจาเอ่ยสัจแท้แน่นะเออ
        น้องจะหวนกลับบ้านวิมานรัก​​​​               คะนึงนักมิหักใจให้เลือนได้
ทางกลับบ้านคือสะพานทอดผ่านใจ                ส่งความฝันส่งไปให้ถึงเอย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิเคราะห์เพลง

นิราศ สาวญ้อพลัดถิ่น (2)

เพลงนิราศสาวญ้อพลัดถิ่น